ครูของนักฆ่าที่ดีย่อมสอนให้มีมีดเล่มที่สองเสมอ


                Assassination Classroom: Graduation (2016) เป็นเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดตัวสีเหลืองที่มีลักษณะคล้ายปลาหมึกซึ่งได้ทำลายด้วยจันทร์ไปจนเหลือเพียงเสี้ยวเดียว อีกทั้งเป้าหมายของสัตว์ประหลาดซึ่งมีที่มาอันเป็นปริศนานี้นั้นคือการทำลายโลก ได้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกับนักเรียนปีสาม ห้อง E ในฐานะครูประจำชั้น นามว่า Koro-sensei ซึ่งเป็นกลุ่มห้องนักเรียนที่ห่วยที่สุดของโรงเรียน ภารกิจของนักเรียนเหล่านี้คือ ต้องสังหารครูประจำชั้นของพวกเขาที่เป็นสัตว์ประหลาดนี้ให้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น เพราะเจ้าสัตว์ประหลาดนี้นั้นมีทั้งความรวดเร็วและสติปัญญาที่แม้แต่นักฆ่าระดับมืออาชีพก็มิอาจสยบได้ ซึ่งเรื่องราวนี้เต็มไปด้วยบททดสอบ ที่บรรดานักเรียนชั้นสาม ห้อง E ต้องเผชิญจากคุณครูสัตว์ประหลาด รวมทั้งศัตรู และตัวละครปริศนาอื่นที่ยังคอยสร้างความคาดไม่ถึง รวมทั้งปริศนาของเจ้าสัตว์ประหลาดหมึกตัวเหลืองนี้เอง


                ความท้าทายในแต่ละบททดสอบของเรื่องราวนี้เอง คือสิ่งที่น่าติดตามอย่างหนึ่ง จากการที่ภาพยนต์เรื่องนี้เองเป็นเนื้อหาที่ถอดออกมาจากอนิเมะ (Anime) สายโชเน็น (Shonen) เอกลักษณ์สำคัญของเนื้อหาจึงหนีไม่พ้นเรื่อง มิตรภาพ การต่อสู้ และชัยชนะ ซึ่งถือเป็นภาพรวมของภาพยนต์เรื่องนี้รวมถึงการ์ตูนสายโชเน็นทั้งหมดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

                อย่างไรก็ตาม ความเป็นสายโชเน็นนี้เอง ก็ย่อมเป็นเนื้อหาที่สรรค์สร้างขึ้นมาด้วยกับความเป็นหนุ่มสาวในการดำเนินเนื้อหาของรื่องราวให้มีความเป็นไป ความเป็นหนุ่มสาวจึงเป็นสิ่งที่มีพลังทั้งความคิด ความอ่าน ความสามารถ ในขณะเดียวกัน การศึกษาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนหนุ่มสาวใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มความสามารถเหล่านั้นให้มีความเป็นรูปธรรมและชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้ง คนหนุ่มสาวยังต้องใช้การศึกษาในการปีนบันไดไปสู่โอกาสต่างๆ หน้าที่การงาน ตำแหน่ง ชื่อเสียง และเกียรติยศ ต่างเป็นความใฝ่ฝันจากความพยายามของคนหนุ่มสาวในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทางการศึกษาในการไปสู่จุดมุ่งหมายทั้งในสิ่งที่ตนเองฝันหรือแม้กระทั่งสิ่งที่คนอื่นคาดหวัง ตั้งแต่ความพยายามที่จะได้เป็นที่หนึ่งของห้อง จวบจนกระทั่งการได้มีชีวิตในอนาคตที่ดี และชีวิตของชนชั้นกลางก็ย่อมเป็นสิ่งที่น่าพิศมัยสำหรับวาที่บัณฑิตหลายคน

                ไม่ว่าคนหนุ่มสาวจะมีความปรารถนาในชีวิตเช่นไร นั่นคือความปรารถนาที่นำไปสู่ผลลัพธ์ในอนาคตเสมอ เราไม่สามารถสร้างคำตอบที่สำเร็จรูปได้ถึงความสำเร็จของแต่ละคนเพราะมันเป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะนิยาม ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางบริบทที่เปลี่ยนแปลง สังคมที่เปลี่ยนไป การตีความคนหนุ่มสาวผ่านความคาดหวังที่จะให้พวกเขาเป็นและใช้ชีวิตเยี่ยงนักปฏิวัติในอดีตอาจเป็นเรื่องที่ผิดถนัด แต่ก็ใช่ว่าใครในในโลกคิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไม่ได้ อย่างเช่น การเปลี่ยนจากห้องที่รกรุงรังให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย พยายามที่จะตรงต่อเวลาให้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรคาดหวังและตระหนัก ซึ่งนอกเหนือไปจากที่กล่าวมาคือความรอบคอบของชีวิตที่ควรตระหนัก

                “นักฆ่าที่ดีย่อมมีมีดเล่มที่สองเสมอ” คือหนึ่งในคำพูดที่สัตว์ประหลาดปลาหมึกหน้ายิ้มตัวสีเหลืองได้กล่าวแก่บรรดานักเรียนของพวกเขาซึ่งถูกเรียกว่าเป็นพวกกากเดนของโรงเรียน ซึ่งความเป็นกากเดนของพวกเขาไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากในสายตาของคุณครูสัตว์ประหลาดเท่ากับเป้าหมายที่เหล่านักเรียนจำเป็นต้องทำ ขณะเดียวกัน Red Eye ครูที่ทำหน้าที่ดูแลพวกเขาในฐานะผู้ได้รับภารกิจจากรัฐบาล ก็พยายามหาจุดเด่นของนักเรียนแต่ละคน และคุณครูสัตว์ประหลาดอย่าง Koro-sensei ก็จำทำหน้าที่ฝึกสอนและให้ความสามารถของนักเรียนแต่ละคนประจักษ์ชัดออกมา ใช่แค่นั้น เขาพยายามทำให้นักเรียนรู้ในทุกอย่างโดยที่พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกอย่าง เพราะนักฆ่าต้องรู้ทุกอย่าง

                โดยส่วนตัวมองว่ามันเป็นการสร้างความรอบคอบอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดความประมาทในขณะที่แต่ละคนต้องเป็นนักฆ่า การเชื่อมันในความสามารถที่ตนเองถนัดเพียงอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะทำได้ดีเสมอไป แต่ก็ใช่ว่าไม่จำเป็น เพียงแต่การตระหนักในมีดเล่มที่สองเป็นเรื่องสำคัญของการเป็นนักฆ่า การมีแผนสำรองเพื่อรองรับย่างก้าวของการใช้ชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนปริศนาหัวปลาหมึกผมสีขาวคือตัวอย่างของความประมาทในเรื่องนี้ เขามีความมั่นใจอย่างสูงว่าเขาจะสามารถสังหารครูสัตว์ประหลาดนั้นได้เพราะเขาแข็งแกร่งกว่าและจากที่ประเมินในเรื่องแล้วเขาแข็งแกร่งจริงในด้านพลัง แต่ในการต่อสู้ครั้งแรกเค้ากลับแพ้เพียงเพราะเขามีแต่พลัง ในขณะที่การต่อสู้ครั้งที่สองซึ่งเขาต้องสู้กับนางิสะ แต่สุดท้ายเขาก็แพ้อย่างราบคาบ หนวดของเขาถูกตัดออก เขาไร้พลัง และกลับกลายเป็นนักเรียนคนหนึ่งที่ยังคงต้องเรียนรู้การเป็นนักฆ่าในชั้นสาม ห้อง E อีกทั้งความเป็น “พ่อขุนอุปถัมป์”ของตัวละครตัวหนึ่งซึ่งเป็นครูฝึกพิเศษเองก็ไม่สามารถเอาชนะใจนักเรียนด้วยกับความแข็งกร้าวทางอารมณ์ได้ แม้ในตอนแรกเขาจะใช้ความใจดีมาหว่านล้อม ความพ่ายแพ้ของครูแบบเผด็จการนิยมใน Assassination Classroom: Graduation นี้เองคือข้อพิสูจน์หนึ่งของความไม่เอาไหนของอำนาจนิยมที่เน้นใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาแต่ขาดซึ่งความรอบคอบ

                ข้อสำคัญอย่างหนึ่งที่คิดว่าเป็นจุดสนใจของ Koro-sensei นอกเหนือจากความเป็นสัตว์ประหลาดที่เก่งกาจแล้วนั้น ก็คงเป็นความสามารถอันแสนหลากหลายของเขา คุณครูในความเป็นจริงก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ทุกสิ่งและถ่ายทอดทุกอย่างแก่ศิษย์ได้ แต่หากมองในทางกายภาพ  Koro-sensei อาจถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำเช่นนั้นได้อยู่แล้ว แต่แม้ว่าคุณครูหลายท่านอาจทำไม่ได้เช่นนั้น ก็ใช่ว่าสิ่งที่ Koro-sensei ทำในทางวิธีคิดจะเป็นไปไม่ได้ Koro-sensei คือตัวอย่างที่ดีในการมองว่าอะไรคือความจริงสำหรับศิษย์ที่พึงกระทำทั้งในแง่ของภารกิจ และโลกของความจริง ซึ่งภารกิจของเหล่านักเรียนคือการฆ่าเขา ในขณะที่ความเป็นจริงในแง่บริบทของเรื่องคือเหล่านักเรียนพวกนี้กำลังทำในสิ่งที่เป็นภารกิจที่รัฐก็ต้องการ และหากทำสำเร็จ พวกเขาก็จะได้รับเงินรางวัลค่าหัวเป็นการตอบแทน และแน่นอนว่านักเรียนเหล่านี้คือหนึ่งในกลไกของการผลิตสำคัญที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายแห่งรัฐประชาชาติ จึงปฎิเสธไม่ได้ที่รัฐจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำ ส่วนจะทำอย่างไรที่จะให้รัฐปรับปรุงการกระทำที่ชอบสร้างปัญหาให้กับระบบทางการศึกษาที่ยังคงไปไม่ถึงไหนก็ยังคงเป็นข้อถกเถียงเรียนรู้กันต่อไป เพราะสิ่งที่รัฐต้องการกับสิ่งที่ครูต้องการหลายครั้งก็สวนทางกัน แต่ Koro-sensei คือผู้อยู่เหนือกฏเกณฑ์นั้น เพราะรัฐไม่สามารถทำลายเขาได้

การเป็นครูจึงไม่ใช่แค่การสอนและรับเงินเดือน แต่มันคือการผลิตหรือสร้างคนให้มีความพร้อมพอที่จะเผชิญกับการต่อสู้ในสมรภูมิที่นับวันการแข่งขันเริ่มมีความเข้มข้นขึ้นทุกชั่วขณะ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าทุนนิยมในโลกเสรีนิยมใหม่มีความเข้มข้นแค่ไหน การรักษาคุณค่าที่สำคัญ เช่นความเป็นมิตร ความรัก หรือระบบความสัมพันธ์ที่ดีที่ไม่ได้วางฐานรากอยู่บนความเป็นวัตถุนิยมล้วนๆ จึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ค่าแก่ความสำคัญในโลกที่วัตถุเริ่มมีอิทธิพลเหนือตัวตนมนุษย์ขึ้นทุกขณะ


ในฐานะนักศึกษา เราไม่อาจสัมผัสกับสนามของการแข่งขันในโลกหลังจบการศึกษาได้มากนักจนกว่าเราจะได้เผชิญกับมัน ในระหว่างที่ยังคงเป็นนักศึกษาอยู่นี้ จึงไม่จำเป็นต้องออมมือในพื้นที่แห่งการศึกษาเพราะสนามของการต่อสู้ไม่เคยปราณีใคร คำสอนหนึ่งที่ผู้เขียนเคยได้รับจากอาจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่งว่า “เป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของอาจารย์คือการสร้างศิษย์ที่เก่งกว่าอาจารย์” และแน่นอนว่าในการฆ่าไม่สามารถจบได้ด้วยการปล่อยมีดในครั้งแรก การฆ่าอาจารย์เพื่อเป็นศิษย์ที่เหนือกว่าก็เช่นกัน การไม่ออมมือระหว่างกันจึงเป็นการสร้างความน่าตื่นเต้นอย่างหนึ่งในบรรยากาศของการเรียนการศึกษาที่เรากำหนดได้

*ภาพจาก thatsnotcurrent.com

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

Contact

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *